มีฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ บ้าง! ใน Microsoft 365 Copilot เดือนตุลาคม 2025

ภายในเดือนตุลาคม 2025 Microsoft ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ ใน Microsoft 365 Copilot โดยเน้นทั้งการพัฒนา ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ (User capabilities) และการเสริมศักยภาพให้กับ ผู้ดูแลระบบ (Admin capabilities) เพื่อช่วยให้การทำงานร่วมกับ Copilot มีความลื่นไหล ฉลาด และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม

ไฮไลต์สำคัญประจำเดือน

ฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ (User capabilities):

• ปรับปรุงคุณภาพและความแม่นยำของ Copilot Chat

• เพิ่มโมเดลใหม่ ฟีเจอร์ค้นหาปฏิทิน และการ์ด Bing Web

• ฟีเจอร์พรีวิวสำหรับมือถือและการค้นหาที่ดีขึ้นในแอป Microsoft 365 Copilot

• ฟีเจอร์ “Audio Recap” และสรุปไฟล์ใหม่ใน Copilot for Teams

• เพิ่ม “Speaker Notes” และการแปลภาษาใน Copilot for PowerPoint

• เปิดตัว “Agent Mode” ทั้งใน Word และ Excel

• ปรับปรุงการวางแผนการประชุมใน Copilot for Outlook

• เพิ่มเอเจนต์ใหม่และอัปเดตฟีเจอร์ Researcher

ฟีเจอร์สำหรับผู้ดูแลระบบ (Copilot Control System):

• สามารถค้นหาฟีเจอร์ของ Copilot Control System ได้โดยตรงบน Microsoft 365 Public Roadmap

• เพิ่มรายงานและเครื่องมือจัดการใหม่ในศูนย์ผู้ดูแลระบบ Microsoft 365

• เพิ่ม Team View ใน Copilot Dashboard เพื่อช่วยติดตามการใช้งานในระดับทีมได้ง่ายขึ้น

ฟีเจอร์เด่นที่ไม่ควรพลาด

ปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของ Copilot Chat

Microsoft เปิดตัว Copilot Chat Quality Roadmap เพื่อให้ผู้ใช้และผู้ดูแลระบบติดตามการอัปเดตด้านคุณภาพและฟีเจอร์ใหม่ได้แบบรายเดือน ช่วยให้การใช้งาน Copilot Chat มีความเสถียรและตอบโจทย์การทำงานมากยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้ Microsoft 365 และ Office 365 สามารถเข้าถึงฟีเจอร์เหล่านี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ฟีเจอร์ “Session Persistence” สนทนาต่อเนื่องไม่สะดุด

Copilot Chat เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเก็บ ประวัติการสนทนาไว้ในแถบนำทาง (Navigation Pane) โดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้สามารถกลับมาทำงานต่อได้ทันที แม้ออกจากหน้าต่างสนทนาไปก่อนหน้านี้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความขาดตอนของการทำงานและเริ่มเปิดใช้งานแล้วในเดือนตุลาคมนี้

ความแม่นยำของคำตอบที่สูงขึ้น

Copilot สามารถตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับหลายไฟล์หรือคำถามที่มีความกำกวมได้ดีขึ้น เช่น

“สร้าง FAQ ให้หน่อย”

โดยไม่จำเป็นต้องระบุชื่อไฟล์หรือคีย์เวิร์ดที่ชัดเจน ระบบจะวิเคราะห์และรวมข้อมูลจากหลายเอกสาร เพื่อให้ได้คำตอบที่ครบถ้วนยิ่งขึ้น ฟีเจอร์นี้จะเริ่มทยอยเปิดใช้งานในเดือนพฤศจิกายน

แนะนำเอเจนต์อัจฉริยะ (Agent Recommendations)

Copilot Chat จะช่วยเลือก เอเจนต์ (Agent) ที่เหมาะสมกับคำถามของผู้ใช้อย่างอัตโนมัติ หากระบบตรวจพบว่าคำถามเกี่ยวข้องกับความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของเอเจนต์ใด ระบบจะแสดงคำแนะนำให้เลือกใช้งานทันที เพียงคลิกเดียวก็สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือเฉพาะทางได้อย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานแล้วในเดือนตุลาคม

โมเดลใหม่ การค้นหาปฏิทิน และ Bing Web Cards ใน Copilot Chat

GPT-5 จะกลายเป็นโมเดลหลักของ Copilot Chat เร็ว ๆ นี้ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากโมเดลล่าสุดของ OpenAI ได้เต็มประสิทธิภาพ โดย GPT-5 ใช้ระบบ Real-Time Router ที่ช่วยให้ Copilot เลือกโมเดลที่เหมาะสมกับแต่ละคำสั่งได้แบบอัตโนมัติ

• ใช้ โมเดลแชท (Chat Model) สำหรับงานที่ต้องการตอบกลับรวดเร็ว

• และใช้ โมเดลเหตุผลเชิงลึก (Reasoning Model) สำหรับงานซับซ้อนที่ต้องคิดหลายขั้นตอน

หาก Copilot เลือกใช้โมเดล reasoning ผู้ใช้สามารถกดสลับกลับไปใช้โมเดลแชทได้ทันที เพื่อรับคำตอบที่ตรงและเร็วกว่า
ในช่วงแรก ตัวเลือกนี้จะเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น และจะถูกนำออกในภายหลัง
การอัปเดตนี้จะเริ่มทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ในเดือน พฤศจิกายน และจะขยายต่อไปยังผู้ใช้ที่ไม่มีไลเซนส์ Microsoft 365 Copilot ในภายหลัง

Copilot Chat กับการจัดการปฏิทินที่ง่ายขึ้น

Copilot Chat ได้รับการปรับปรุงเพื่อช่วยให้การค้นหาและจัดการตารางนัดหมายเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น

• ค้นหาปฏิทินตามผู้จัดประชุมได้: เพียงพิมพ์ให้ Copilot ค้นหาการประชุมที่จัดโดยหัวหน้า เพื่อนร่วมทีม หรือผู้บริหาร ระบบจะแสดงรายการการประชุมทั้งหมดจากปฏิทิน ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบและเตรียมตัวได้รวดเร็ว ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้งานใน พฤศจิกายน

• ผู้ช่วย (Delegate) :  ที่มีสิทธิ์เข้าถึงปฏิทินของผู้อื่น สามารถใช้ Copilot Chat เพื่อค้นหาการประชุมในปฏิทินของบุคคลนั้นได้โดยตรง
  ช่วยให้จัดการตารางและดึงข้อมูลการประชุมของผู้อื่นได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้งานใน พฤศจิกายน

• ค้นหาการประชุมตามหมวดหมู่ (Category) : ผู้ใช้สามารถสั่งให้ Copilot แสดงการประชุมที่ติดแท็กหมวดหมู่ เช่น “ลูกค้า” หรือ “โครงการภายใน” พร้อมรายละเอียดสำคัญอย่างชื่อ วันที่ เวลา และสถานที่ เพื่อให้จัดตารางงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานแล้วตั้งแต่เดือน ตุลาคม

​

Bing Web Cards

ฟีเจอร์ใหม่ Bing Web Cards จะเปิดให้ใช้งานใน Copilot Chat เร็ว ๆ นี้ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เห็นข้อมูลจากเว็บได้อย่างรวดเร็วในรูปแบบ “การ์ดข้อมูล” ที่สวยงามและขยายดูรายละเอียดได้
ตัวอย่างเช่น การค้นหาข้อมูลทั่วไปอย่าง สภาพอากาศ หุ้น กีฬา ข่าว และอื่น ๆ 

เมื่อผู้ใช้ค้นหาผ่าน Copilot Chat ระบบจะแสดงการ์ดข้อมูลจาก Bing ให้เห็นทันที ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้กับทั้งผู้ที่มีและไม่มีไลเซนส์ Microsoft 365 Copilot โดยจะเริ่มทยอยเปิดใช้งานในเดือน พฤศจิกายน

Copilot Chat API

Copilot Chat ยังเปิดให้ใช้งาน API สำหรับเชื่อมต่อ Microsoft 365 Copilot เข้ากับโซลูชัน AI ภายในองค์กรอย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องจัดการระบบเวกเตอร์หรือการประมวลผลที่ซับซ้อน ผู้ใช้เพียงส่ง “คำสั่ง (prompt)” เข้าสู่ API เพื่อให้ Copilot สร้างคำตอบจากข้อมูลทั้งในเว็บและในที่ทำงาน

API นี้ยังรองรับการสนทนาแบบหลายรอบ (Multi-turn conversation) ที่เชื่อมโยงกับข้อมูลภายในองค์กรและเว็บ เพื่อช่วยให้นักพัฒนาสร้างเอเจนต์อัจฉริยะที่มีความสามารถเทียบเท่า Copilot ได้ ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานแล้วตั้งแต่เดือน ตุลาคม

พรีวิวในมือถือและการปรับปรุงระบบค้นหาในแอป Microsoft 365 Copilot

Microsoft กำลังพัฒนา Copilot App ให้ฉลาดและสะดวกขึ้นทั้งในด้านการค้นหาและการใช้งานผ่านมือถือ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลและสรุปเนื้อหาได้เร็วกว่าเดิม

AI Views มุมมองค้นหาอัจฉริยะที่เข้าใจบริบท

ฟีเจอร์ AI Views ใน Microsoft 365 Copilot Search จะช่วยสร้าง “สรุปแบบเข้าใจบริบท (Context-Aware Summary)” ที่ละเอียดและมีประโยชน์ยิ่งขึ้น โดยรวมถึง

• ข้อมูลเมทาดาทาที่เกี่ยวข้อง,

• แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (related resources)

• การกระทำที่แนะนำ (suggested actions)

สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถประเมินความสำคัญของผลลัพธ์ได้โดยไม่ต้องเปิดไฟล์หรืออีเมลต้นฉบับ AI Views ยังทำงานได้กับแอป Microsoft 365 หลากหลายตัว รวมถึงแพลตฟอร์มของบุคคลที่สามผ่าน Copilot connectors เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่และสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน ฟีเจอร์นี้จะเริ่มเปิดใช้งานในเดือน พฤศจิกายน

ค้นหาได้แม่นยำและเข้าใจคำถามภาษามนุษย์มากขึ้น

ระบบค้นหาใหม่ของ Microsoft 365 Copilot Search จะตอบคำถามด้วยความแม่นยำและเข้าใจบริบทมากกว่าเดิม โดยใช้เทคโนโลยี Semantic Search, ข้อมูลบริบทขององค์กร (Organizational Context) และ การเชื่อมต่อข้อมูลภายใน Microsoft 365 อย่างลึกซึ้ง ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงแค่ “คำตอบโดยตรง” แต่ยังแสดง

• แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง,

• การกระทำที่แนะนำ,

• และลิงก์ไปยังเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเชิงลึก

ช่วยให้ผู้ใช้เปลี่ยนจาก “การค้นหา” ไปสู่ “การลงมือทำ” ได้ในขั้นตอนเดียว ฟีเจอร์นี้จะเริ่มทยอยเปิดใช้งานในเดือน พฤศจิกายน

การค้นหาบุคคล (People Search) ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

ตอนนี้ Copilot Search สามารถให้ข้อมูลบุคคลได้แม่นยำขึ้นสำหรับคำค้นทั่วไปที่เกี่ยวกับ “ผู้คน” ผู้ใช้สามารถค้นหาคนในองค์กรได้ทั้งที่รู้จักและยังไม่รู้จัก เช่น

• “ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการโครงการ”

• หรือ “นักพัฒนาในลอนดอน”

Copilot Search จะช่วยระบุบุคคลที่มีทักษะตรงกับคำค้น พร้อมแนะนำให้เชื่อมต่อได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานแล้วตั้งแต่เดือน ตุลาคม

พรีวิวไฟล์พร้อมถาม Copilot ได้โดยตรงบนมือถือ

เมื่อเปิดไฟล์ Word, Excel หรือ PowerPoint ในแอป Microsoft 365 Copilot บนมือถือ ผู้ใช้สามารถพูดคุยกับ Copilot ได้โดยตรงในหน้าพรีวิวของไฟล์ เช่น

• ขอให้สรุปเนื้อหาเอกสาร Word ที่ยาว

• ดึงวันครบกำหนดจากสไลด์ PowerPoint

• หรือให้ Copilot วิเคราะห์ข้อมูลในตาราง Excel

ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเปิดไฟล์เต็มรูปแบบ ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานแล้วตั้งแต่เดือน ตุลาคม

สรุปเสียง (Audio Recap) และสรุปไฟล์อัตโนมัติใน Copilot for Teams

การติดตามข้อมูลการประชุมไม่จำเป็นต้องนั่งจ้องหน้าจอตลอดเวลาอีกต่อไป Microsoft กำลังเปิดตัว ฟีเจอร์ Audio Recap รูปแบบใหม่ของการ “ฟังสรุปการประชุม” ที่ช่วยให้ผู้ใช้ติดตามข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลา

Audio Recap ฟังสรุปการประชุมได้ทุกที่

ฟีเจอร์ใหม่นี้จะเปลี่ยน “สรุปการประชุม” ให้กลายเป็น ไฟล์เสียงอัตโนมัติ ที่ Copilot สร้างขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้สามารถฟังขณะเดินทาง ระหว่างเปลี่ยนห้องประชุม หรือแม้แต่ขณะทำงานอื่น ๆ ได้แบบแฮนด์ฟรี ผู้ใช้สามารถสร้าง สรุปเสียงได้สูงสุด 8 การประชุมต่อครั้ง และเลือก “รูปแบบการฟัง” ได้ตามสไตล์ที่ชอบ ได้แก่

• Newscast: ผู้บรรยาย AI คนเดียว ให้สรุปแบบกระชับ เร็ว และตรงประเด็น

• Executive: ผู้บรรยาย AI สองคน ให้สรุปแบบมืออาชีพ เน้นประสิทธิภาพและลดคำบรรยายส่วนเกิน

• Casual:  ผู้บรรยาย AI สองคน ให้สรุปแบบเป็นกันเอง เพิ่มสีสันและความคิดเห็นเล็กน้อยระหว่างสรุป

ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Audio Recap ได้โดยตรงจากหน้า “สรุปการประชุม (Meeting Recap Page)” และสามารถฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ รองรับทั้ง เดสก์ท็อปและมือถือ เพื่อให้คุณตามงานได้ทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ในออฟฟิศหรือระหว่างเดินทาง ฟีเจอร์นี้จะเริ่มทยอยเปิดใช้งานในเดือน พฤศจิกายน

สรุปไฟล์อัตโนมัติ (File Summaries) ใน Teams Chat

เมื่อมีการแชร์ไฟล์ในแชท ไม่ใช่ทุกครั้งที่ผู้ใช้จะมีเวลาคลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาทั้งหมด ฟีเจอร์ใหม่ของ Microsoft 365 Copilot ใน Teams ช่วยสรุปเนื้อหาจากไฟล์ Microsoft Word ทั้งในแชทแบบ 1:1 และแบบกลุ่มได้ทันที

Copilot จะดึง “ประเด็นสำคัญ” ออกมาให้เข้าใจได้ในไม่กี่บรรทัด โดยไม่ต้องเปิดไฟล์จริง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำงานบนมือถือ
ผู้ใช้สามารถอ่านสรุปเอกสารได้อย่างสะดวก แม้บนหน้าจอขนาดเล็กระหว่างเดินทาง

นอกจากนี้ Copilot ยังปฏิบัติตาม นโยบายความปลอดภัยของไฟล์ต้นฉบับ อย่างเคร่งครัด —
เฉพาะผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงไฟล์เท่านั้นที่จะเห็นสรุปนี้ และสรุปจะถูกติด ป้ายความปลอดภัย (Sensitivity Label) แบบเดียวกับไฟล์ต้นฉบับด้วย

ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานแล้วตั้งแต่เดือน ตุลาคม

บันทึกผู้พูด (Speaker Notes) และการแปลสไลด์ใน Copilot for PowerPoint

สำหรับผู้ที่ต้องนำเสนองานให้กับผู้ชมต่างภาษา ตอนนี้ Copilot for PowerPoint ช่วยให้การแปลเนื้อหาทั้งสไลด์ง่ายและรวดเร็วกว่าที่เคย ด้วย ประสบการณ์การใช้งานแบบ on-canvas ที่ให้ผู้ใช้แปลสไลด์ได้โดยตรงจากหน้า PowerPoint โดยไม่ต้องสลับไปใช้หน้าต่างแชทเหมือนก่อน เพียงไม่กี่คลิก ผู้ใช้ก็สามารถ แปลเนื้อหาในแต่ละสไลด์หรือทั้งชุดงานนำเสนอ ได้ทันที ช่วยลดเวลาในการปรับเนื้อหาให้เหมาะกับผู้ฟังในแต่ละภูมิภาค

ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดใช้งานแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม บน PowerPoint สำหรับเว็บ, Windows Desktop และ Mac เพื่อให้ทุกการนำเสนอข้ามภาษาทำได้อย่างราบรื่นและมืออาชีพ

Agent Mode ใน Word

โหมด Agent ใน Word เปลี่ยนประสบการณ์สร้างเอกสารให้กลายเป็นบทสนทนาแบบโต้ตอบ ผู้ใช้เพียงบอกสิ่งที่ต้องการ เช่น “สรุปความคิดเห็นลูกค้าและเน้นประเด็นสำคัญ” จากนั้น Copilot จะร่างเนื้อหา ปรับปรุง และถามคำถามเพิ่มเติมเพื่อให้ได้เอกสารที่สมบูรณ์มากที่สุด เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวด้านการเขียนอยู่เคียงข้าง
ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้ผ่านโปรแกรม Frontier ตั้งแต่เดือนตุลาคม และเริ่มทยอยเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน

Agent Mode ใน Excel

ใน Excel โหมด Agent สามารถวางแผน ดำเนินการ และตรวจสอบงานหลายขั้นตอน เช่น การสร้างโมเดล ปรับตาราง หรือสร้างกราฟ ได้โดยตรงภายในตาราง (grid) ผู้ใช้ยังสามารถเห็นขั้นตอนการทำงานทั้งหมดและแก้ไขผลลัพธ์ได้ ทำให้งานซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น

ฟีเจอร์นี้เปิดใช้แล้วใน Excel for Web ผ่านเมนู Tools และจะขยายไปยังเวอร์ชันเดสก์ท็อปในอนาคต

Copilot ใน Outlook ช่วยวางแผนการประชุมอัจฉริยะ

Copilot สามารถช่วยร่างวาระการประชุม (agenda) อัตโนมัติ โดยอิงจากหัวข้อ ผู้เข้าร่วม และข้อมูลจากอีเมลหรือแชตที่เกี่ยวข้อง ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหรือให้ Copilot แก้ไขเพิ่มเติมก่อนส่งคำเชิญได้

นอกจากนี้ Copilot ยังช่วยเตรียมข้อมูลก่อนประชุม เช่น สรุปข้อมูลสำคัญ เอกสารที่เกี่ยวข้อง หรือคำถามที่ควรถาม เพื่อให้ทุกการประชุมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานแล้วใน Outlook for Windows, Web และ Teams

Agents ใหม่และการอัปเดต Researcher

Agents ช่วยเหลือตัวเองสำหรับพนักงาน ช่วยค้นหาคำตอบและจัดการงานพื้นฐานด้าน HR หรือ IT ได้ทันที เช่น ตรวจวันลาหรือส่งคำขอซ่อมระบบ โดยเชื่อมต่อกับระบบอย่าง Workday, ServiceNow และ SAP SuccessFactors ได้โดยตรง รองรับมาตรฐานความปลอดภัยของ Microsoft 365 และเตรียมขยายไปยังฝ่ายอื่น ๆ เช่น Facilities ในอนาคต (เริ่มเปิดใช้พฤศจิกายน)

Surveys Agent

ช่วยสร้างแบบสอบถาม วิเคราะห์คำตอบ และสรุปผลในที่เดียว เหมาะสำหรับการเก็บความคิดเห็นจากการอบรม ความพึงพอใจพนักงาน หรือวิจัยลูกค้า เปิดใช้งานแล้วในเดือนตุลาคม

App Builder Agent

ช่วยสร้างแอปพลิเคชันแบบโต้ตอบ เช่น ตัวติดตามโครงการหรือแบบฟอร์มฟีดแบ็ก ด้วยภาษาธรรมชาติ ข้อมูลเก็บใน Microsoft Lists เพื่อให้แชร์และทำงานร่วมกันได้อย่างปลอดภัย เปิดใช้แล้วในเดือนตุลาคม

Workflows Agent

Workflows Agent ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ทำงานซ้ำ ๆ ได้โดยอัตโนมัติ ภายในแอป Microsoft 365 ต่าง ๆ เช่น Outlook, Teams, SharePoint และ Planner เพียงใช้คำสั่งข้อความง่าย ๆ เท่านั้น

ฟีเจอร์นี้ถูกสร้างอยู่ภายใน Copilot Agent โดยตรง ผู้ใช้สามารถ สร้าง ทดสอบ และติดตามกระบวนการอัตโนมัติ ได้ เช่น การสร้างสรุปการประชุม หรือรายงานภาพรวมของงาน ทั้งหมดนี้ทำงานภายใต้ระบบ ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดในระดับองค์กร (Enterprise-grade security & compliance)

ด้วยการผสานรวมอย่างลึกกับ Microsoft 365 ทำให้ Workflows สามารถเข้าถึงข้อมูลจาก Microsoft Graph และดำเนินการข้ามบริการต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังรองรับการอัปเกรดในอนาคตผ่าน Copilot Studio เพื่อเพิ่มความสามารถในการปรับแต่งตามความต้องการขององค์กร ฟีเจอร์ Workflows พร้อมใช้งานแล้วภายใต้ โครงการ Frontier Program และเริ่มเปิดให้ใช้ในเดือนตุลาคม

Researcher ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยจัดการ งานวิจัยที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน ด้วยโมเดลการให้เหตุผลขั้นสูง (Advanced Deep Reasoning Models) โดยตอนนี้ผู้ใช้สามารถ ปรับแต่งรายงานการวิจัย ให้เหมาะสมกับความต้องการได้ดียิ่งขึ้น

ผู้ใช้สามารถเลือก แหล่งข้อมูลที่ต้องการให้ระบบนำมาใช้ เช่น ข้อมูลการทำงานภายในองค์กร รวมถึง การประชุม อีเมล แชท และไฟล์ใน SharePoint ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เปิดหรือปิด ตัวเลือก (Toggle) ของแหล่งข้อมูลนั้น ๆ ระบบก็จะสร้างรายงานที่มีความเข้าใจบริบทและสอดคล้องกับข้อมูลของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ

ผู้ใช้ยังสามารถ ปรับความยาวของรายงาน Researcher ได้ตามต้องการ โดยเลือกระหว่าง สรุปแบบสั้น เพื่อดูภาพรวมอย่างรวดเร็ว หรือ รายงานแบบละเอียด สำหรับการวิเคราะห์เชิงลึกในหัวข้อเฉพาะ จากนั้นสามารถ ส่งออกรายงานเป็นไฟล์ Word เพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

และเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้สามารถ สลับไปใช้ฟีเจอร์ Researcher ได้โดยตรงจาก Copilot Chat ภายในช่องพิมพ์คำสั่ง (Prompt Box) โดยไม่ต้องออกจากหน้าการสนทนา ฟีเจอร์เหล่านี้ได้เริ่มเปิดใช้งานแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม

Copilot Control System

ค้นหาฟีเจอร์ Copilot Control System ได้ง่ายบน Microsoft 365 Public Roadmap

ผู้ดูแลระบบ IT สามารถ ค้นหาและติดตามฟีเจอร์ทั้งหมดของ Copilot Control System ได้อย่างรวดเร็วผ่าน Microsoft 365 Public Roadmap เพียงพิมพ์คำค้นว่า “copilotcontrolsystem” ก็จะสามารถเข้าถึงรายการฟีเจอร์และการอัปเดตทั้งหมดที่เกี่ยวข้องได้ทันที

วิธีการค้นหานี้ช่วย ประหยัดเวลาและทำให้ผู้ดูแลระบบติดตามความเปลี่ยนแปลงล่าสุดได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้สามารถวางแผนการปรับใช้ (deployment) ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น บริหารจัดการประสบการณ์การใช้งาน Copilot ภายในองค์กรได้อย่างเชิงรุก

ผลลัพธ์คือ การเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ใช้ และ การควบคุมระบบที่ดีขึ้นสำหรับผู้ดูแล Microsoft 365 ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดใช้งานตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา

รายงานการใช้งานและเครื่องมือใหม่ใน Microsoft 365 Admin Center

Microsoft เปิดตัวความสามารถใหม่สำหรับ การติดตามการใช้งาน (Tracking Capabilities) ของ Microsoft 365 Copilot ในสภาพแวดล้อม GCC Moderate เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถ บริหารจัดการไลเซนส์ได้อย่างเหมาะสม, ติดตามแนวโน้มการใช้งาน, และ ปรับกลยุทธ์การปรับใช้อย่างปลอดภัย ได้ดียิ่งขึ้น

ผู้ดูแลระบบ (Admins) จะสามารถเข้าถึง รายงานการใช้งานแบบละเอียด ซึ่งแสดงข้อมูลเช่น จำนวนผู้ใช้ทั้งหมดและผู้ใช้ที่ใช้งานประจำวัน (Daily Active Users), จำนวนคำสั่งที่ส่งให้ Copilot (Prompt Submissions), และการโต้ตอบกับแอปต่าง ๆ เช่น Word, PowerPoint, Excel, OneNote, Loop, Teams, Outlook และแอป M365 Copilot

นอกจากนี้ยังมี ข้อมูลเชิงลึกในระดับผู้ใช้ (User-level Insights) เพื่อช่วยให้ผู้ดูแลสามารถติดตามและประเมินการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดให้ใช้งานแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม

ผู้ดูแลระบบ (Admins) สามารถ ติดตามกิจกรรมการส่งคำสั่ง (Prompt Activity) เพื่อปรับปรุงการใช้งาน Microsoft 365 Copilot และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการไลเซนส์ได้ดียิ่งขึ้น

รายงานใหม่ Microsoft 365 Copilot Usage Report จะแสดง ข้อมูลเชิงลึกแบบละเอียด ทั้งในระดับองค์กรและรายบุคคล เช่น

• จำนวนคำสั่งที่ส่งทั้งหมด (Total Prompt Submissions)

• แนวโน้มการใช้งานรายวัน (Daily Trends)

• จำนวนวันที่มีการใช้งานจริง (Active Day Counts)

• อัตราการส่งคำสั่งในระดับผู้ใช้ (User-level Submission Rates)

ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ทีมสามารถ ติดตามการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ (Engagement), ระบุรูปแบบการใช้งานที่สูง, และ ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้งานและการจัดการไลเซนส์ได้อย่างมีข้อมูลรองรับ ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดใช้งานแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม

เปลี่ยนเจ้าของ Agent ได้สะดวก ปลอดภัยมากขึ้น

เมื่อพนักงานลาออกหรือย้ายตำแหน่ง ผู้ดูแลระบบสามารถโอนสิทธิ์เจ้าของ Agent ไปยังผู้ใช้รายใหม่ที่มีสิทธิ์ใช้งาน Copilot ได้ทันที โดยเจ้าของเก่าจะถูกตัดสิทธิ์ทั้งหมด เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและความต่อเนื่องของงาน (เปิดใช้งานเดือนตุลาคม)

Copilot Control System เพิ่มความสามารถในการ Export Agent Inventory เป็นไฟล์ CSV พร้อมข้อมูลสำคัญ เช่น App ID, ผู้สร้าง, ระดับความอ่อนไหวของข้อมูล, ความสามารถ, แหล่งข้อมูลความรู้ และการอนุญาตต่าง ๆ เพื่อช่วยตรวจสอบความปลอดภัยและทำรายงานด้านการกำกับดูแลได้ง่ายขึ้น
สามารถเข้าถึงได้ที่ Microsoft 365 Admin Center > Copilot > Agents > Export to Excel (เปิดใช้งานเดือนตุลาคม)

ระบบควบคุมใน Copilot Control System ตอนนี้รองรับ MCP-powered agents ซึ่งช่วยให้นักพัฒนา Agent สามารถเชื่อมต่อเครื่องมือหรือ API ภายนอกได้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ผู้ดูแลระบบสามารถมองเห็นกิจกรรมของ Agent ทั้งหมด เปิด/ปิดการใช้งาน กำหนดสิทธิ์ และตรวจสอบบันทึกการใช้งานได้ในศูนย์กลางเดียว

ช่วยให้องค์กรรักษาความปลอดภัย ความโปร่งใส และความเชื่อมั่นในระบบ Copilot ได้อย่างมั่นคง (เปิดใช้งานเดือนตุลาคม)

ผู้ดูแลระบบสามารถนำ Copilot Credit Capacity ที่ซื้อแบบพรีเพด (25,000 เครดิต/เดือน) มาใช้กับบริการ SharePoint Agents และ Copilot Tuning (แบบจ่ายตามการใช้งาน) ได้โดยตรง ซึ่งช่วยควบคุมงบประมาณได้ดีกว่าและคาดการณ์ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้ง่ายขึ้น (เปิดใช้งานเดือนตุลาคม)

ผู้ดูแลระบบสามารถตั้งค่าให้แอป Microsoft 365 Copilot รวมถึงแอป People, Files และ Calendar ถูกปักหมุดไว้ที่ Taskbar ของ Windows โดยอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงเครื่องมือสำคัญได้รวดเร็ว และสร้างประสบการณ์ใช้งานที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วทั้งองค์กร (เปิดใช้งานเดือนตุลาคม)

Team Views ใน Copilot Dashboard สำหรับหัวหน้าทีม

หัวหน้าทีมสามารถดูข้อมูลการใช้งาน Copilot เฉพาะของทีมตนเองได้ผ่าน Copilot Dashboard โดย Viva Insights Admin สามารถตั้งค่าขนาดกลุ่มขั้นต่ำหรืออัปโหลดรายชื่อผ่าน CSV เพื่อกำหนดขอบเขตการเข้าถึงข้อมูลอย่างปลอดภัย พร้อมระบบมอบสิทธิ์ให้ผู้ช่วยหรือผู้แทนเข้าดูข้อมูลได้ (เปิดใช้งานเดือนตุลาคม)

Microsoft มุ่งเน้นการพัฒนาเครื่องมือ AI ให้มีความปลอดภัย โปร่งใส และสามารถบริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ผ่าน Copilot Control System ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรควบคุม ดูแล และวิเคราะห์การใช้งาน Copilot ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา techcommunity