Windows 11 ไม่ได้เป็นระบบปฏิบัติการใหม่อีกต่อไปแล้ว แต่แม้เวลาจะผ่านมาหลายปี (ตอนนี้อายุกว่า 5 ปีแล้ว) Microsoft ก็ยังใช้เวลาพอสมควรในการแก้ไขคำวิจารณ์เกี่ยวกับฟีเจอร์ที่หายไป โดยเฉพาะในส่วนของแถบงานและเมนู Start แม้ว่า Microsoft จะนำฟีเจอร์ที่หายไปหลายอย่างกลับมาแล้ว และยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น การเปิดศูนย์การแจ้งเตือน (Notification Center) จากจอไหนก็ได้ แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปเสมอมา: ป๊อปอัปปฏิทินแบบสมบูรณ์
ป๊อปอัปปฏิทินของ Windows 10 เป็นฟีเจอร์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ให้คุณดูตารางงาน เพิ่มกิจกรรมใหม่ และอื่น ๆ ไม่ใช่แค่ดูปฏิทินว่าง ๆ แบบใน Windows 11 การทำปฏิทินใน Windows 11 ที่ด้อยกว่า ทำให้มีแอปของบุคคลที่สาม เช่น Calendar Flyout เข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าว และตอนนี้ Microsoft กำลังแก้ไขมันในที่สุด

ที่งาน Ignite 2025 ซึ่ง Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่จำนวนมาก รวมถึงอัปเดตด้าน AI สำหรับ Windows 11 บริษัทได้ประกาศว่าป๊อปอัปปฏิทินของ Windows 11 จะได้รับการอัปเกรดครั้งสำคัญในที่สุด เดือนหน้า Microsoft จะนำมุมมอง Agenda ใหม่เข้าสู่ป๊อปอัปปฏิทิน เพื่อให้คุณสามารถดูเหตุการณ์ที่กำลังจะมาถึงได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีปุ่มเสริมสำหรับเข้าร่วมการประชุม หรือพูดคุยกับ Microsoft 365 Copilot (แน่นอน) อย่างไรก็ตาม จากภาพหน้าจอที่ Microsoft แชร์มา ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีปุ่มสำหรับเพิ่มกิจกรรมใหม่
น่าเสียดายที่ Microsoft ใช้เวลานานมากในการปรับปรุงส่วนนี้ ซึ่งสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้ Windows 10 ที่กำลังถูกบังคับให้อัปเกรดเนื่องจากสิ้นสุดการสนับสนุน สำหรับหลายคน การย้ายไป Windows 11 ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการดาวน์เกรด เพราะขาดความสะดวกเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ป๊อปอัปปฏิทินที่ดี รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าสงสัยมากขึ้นเรื่อย ๆ และแนวทางการใช้งานที่ดูไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ รวมถึง AI ที่มีอยู่ทุกที่ ก็ทำให้สถานการณ์ไม่ได้ดีขึ้นเลย
สรุป
Microsoft เตรียมนำฟีเจอร์ปฏิทินแบบ Agenda View กลับมาสู่ Windows 11 หลังถูกเรียกร้องมานาน เพราะปฏิทินใน Windows 11 ปัจจุบันทำได้เพียงแสดงวันที่แบบพื้นฐาน ต่างจาก Windows 10 ที่ดูตารางงานและเพิ่มกิจกรรมได้
ฟีเจอร์ใหม่จะเริ่มปล่อยเดือนหน้า ให้ผู้ใช้ดูเหตุการณ์ที่กำลังมาถึงได้ทันที พร้อมปุ่มเข้าร่วมประชุมและใช้งาน Microsoft 365 Copilot แต่ยังไม่มีปุ่มเพิ่มกิจกรรมใหม่
หลายคนมองว่า Windows 11 ขาดความสะดวกเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบ Windows 10 และการเพิ่มฟีเจอร์นี้ถือเป็นการแก้ไขที่ Microsoft ควรทำมาตั้งนานแล้ว.
ที่มา neowin



