Microsoft แนะนำ “Windows Hotpatch Updates” อัปเดตเร็ว ไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง!!

Microsoft แนะนำ “Windows Hotpatch Updates” อัปเดตเร็ว ไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง!!


Microsoft เตรียมปล่อยอัปเดตประจำเดือนหรือ “Patch Tuesday” ในวันนี้ ซึ่งเป็นรอบอัปเดตที่ปล่อยทุกเดือนเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของ Windows แต่ในขณะเดียวกัน บริษัทก็ได้ผลักดันให้ผู้ใช้โดยเฉพาะในภาคองค์กร หันมาทดลองใช้ “Windows Hotpatch Updates” รูปแบบการอัปเดตใหม่ที่ช่วยลดการหยุดชะงักของระบบได้อย่างมาก

Hotpatch Updates หรือที่เรียกว่า “B releases” เป็นการอัปเดตแบบขนาดเล็กที่เน้นเฉพาะการอุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย แตกต่างจากการอัปเดตแบบสะสม (Cumulative Updates) ที่รวมทั้งฟีเจอร์และการแก้ไขจากเวอร์ชันก่อนหน้า Hotpatch จะถูกติดตั้งผ่านระบบ Windows Autopatch และสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง

Microsoft ระบุว่า Hotpatch Updates มีขนาดเล็กกว่าการอัปเดตแบบปกติถึง 10 เท่า เนื่องจากส่งเฉพาะ “in-memory code changes” หรือการเปลี่ยนแปลงโค้ดในหน่วยความจำเท่านั้น ข้อดีคือ

  • ใช้แบนด์วิดท์น้อย ติดตั้งได้รวดเร็ว

  • ลดเวลา Downtime ของระบบ

  • ไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง

  • ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยได้ง่ายขึ้น

คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ Hotpatch เป็นทางเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่ต้องการอัปเดตระบบอย่างต่อเนื่องโดยไม่กระทบต่อการทำงานของผู้ใช้

แม้ว่า Hotpatch จะเน้นการอัปเดตเฉพาะจุด แต่ก็ยังคงต้องอ้างอิงจาก “Baseline Update” ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการอัปเดตแบบสะสม โดย Microsoft จะปล่อย Baseline Update ปีละ 4 ครั้ง คือในเดือน มกราคม เมษายน กรกฎาคม และตุลาคม

ระหว่างแต่ละรอบของ Baseline Update จะมีการปล่อย Hotpatch ออกมาสองครั้งในเดือนถัดไป เพื่ออัปเดตด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง

หากต้องการใช้ประโยชน์จาก Hotpatch Updates แนะนำให้ตรวจสอบคู่มือการติดตั้งจาก Microsoft โดยการอัปเดต Baseline ครั้งต่อไป ซึ่งต้องรีสตาร์ทเครื่อง จะปล่อยในวันนี้ ส่วนอีกสองเดือนถัดไปจะเป็น Hotpatch Updates ที่ ไม่จำเป็นต้องรีสตาร์ทเครื่อง

สรุป

Microsoft แนะนำ Hotpatch Updates ระบบอัปเดต Windows แบบใหม่ที่เน้นความปลอดภัย ติดตั้งเร็ว และไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง แตกต่างจากอัปเดตแบบเดิมที่มีขนาดใหญ่และใช้เวลานาน โดย Hotpatch จะส่งเฉพาะการแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัย มีขนาดเล็กกว่าเดิมถึง 10 เท่า และช่วยลด Downtime ของระบบ ซึ่ง Hotpatch จะออกระหว่างรอบของ Baseline Update ซึ่งปล่อยปีละ 4 ครั้ง (ม.ค., เม.ย., ก.ค., ต.ค.) โดย Baseline Update รอบถัดไปจะปล่อยในวันอังคารนี้ ก่อนตามด้วย Hotpatch ที่ติดตั้งได้ทันทีโดยไม่สะดุดการทำงาน

 

ที่มา neowin


Windows 11 เตรียมเปิดฟีเจอร์ใหม่ วิเคราะห์การใช้พลังงานของ PC แบบเรียลไทม์
Microsoft กำลังก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 โดยเน้นการประหยัดพลังงานและการปรับแต่งประสบการณ์ผู้ใช้ ล่าสุดมีการค้นพบฟีเจอร์ใหม่ที่น่า...
Microsoft เปิดตัว Office 2024 เวอร์ชันซื้อขาด ตอบโจทย์องค์กรและผู้ใช้ที่ไม่ต้องการสมัครสมาชิก!
ในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยนวัตกรรม โปรแกรมประมวลผลคำอย่าง Word, Excel, และ PowerPoint ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ผู้ใช้หลายคนพึ่งพาเพื่อการทำงานและกา...

Quote

Line

Call