Email ธุรกิจ เป็นการใช้ Email ธุรกิจในนามบริษัทเพื่อติดต่อกับลูกค้าคนสำคัญ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและให้แบรนด์ของท่านดูน่าเชื่อถือ อีกทั้ง Email ธุรกิจยังเพิ่มความเป็นมืออาชีพให้กับบริษัทมากยิ่งขึ้น
ฟรี Email เป็นการให้บริการฟรี Email จากผู้ให้บริการ Hotmail, Gmail หรือ Yahoo สำหรับการทำธุรกิจอาจทำให้ดูไม่เป็นมืออาชีพ อีกทั้งฟรีอีเมลนั้นยังไม่ปลอดภัยสำหรับการติดต่อธุรกิจกับลูกค้าคนสำคัญของคุณอีกด้วย
ความแตกต่างระว่าง Email ธุรกิจ กับ ฟรี Email
1. Email ธุรกิจ สามารถกำหนดชื่อโดเมนได้ด้วยตัวเอง
หากคุณใช้ Email ธุรกิจ คุณจะสามารถกำหนดชื่อโดเมนอีเมลของคุณได้ เช่น name@mailmaster.co.th ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของคุณดูมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น อีกทั้ง Email ธุรกิจ ยังเป็นการเพิ่มคุณค่าและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ของคุณ แต่ถ้าคุณใช้ ฟรี Email ชื่ออีเมลที่ส่งออกไปจะมาจากผู้ให้บริการ ฟรี Email ต่าง ๆ เช่น Hotmail, Gmail หรือ Yahoo ซึ่งอีเมลลักษณะนี้เป็นอีเมลที่ทุกคนสามารถสร้างขึ้นได้ แต่หากคุณเปลี่ยนมาใช้ Email ธุรกิจ ชื่อของคุณจะโดดเด่นไม่ซ้ำใครๆแน่นอน
2. Email ธุรกิจ สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา
เมื่อคุณใช้ Email ธุรกิจ ผู้ให้บริการสามารถรับประกันได้ว่าระบบจะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะไม่เกิดเหตุขัดข้อง แต่ถ้าคุณใช้ ฟรี Email ที่ไม่มีการรับประกันในจุดนี้ ก็อาจเกิดปัญหาในการใช้งานอีเมลได้
3. Email ธุรกิจ สามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้สูงสุดกว่า 70 เท่า
สำหรับฟรี Email ส่วนใหญ่แล้วจะมีพื้นที่ในการจัดเก็บอีเมลที่จำกัด อย่างเช่น Gmail จะมีพื้นที่ให้เพียง 15 GB แต่ถ้าคุณใช้ Email ธุรกิจ คุณจะได้พื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 1 TB สำหรับบางธุรกิจที่ใช้เกี่ยวกับงานเอกสารทั่วไปอาจจะไม่ประสบกับปัญหาประเภทนี้ แต่ในปัจจุบันเราใช้วีดีโอในการสื่อสารและการทำงานกันมากขึ้น จึงจำเป็นที่จะต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บที่มีขนาดใหญ่เพียงพอ
4. Email ธุรกิจ มีบริการให้คำปรึกษาตลอดเวลา
นี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ หากคุณใช้ Email ธุรกิจ คุณไม่ต้องกังวล เมื่อเกิดปัญหาหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งานอีเมล เพราะจะมีคนคอยให้คำปรึกษาและเสนอแนวทางการแก้ปัญหาต่างๆให้คุณได้ตลอดเวลา แต่ถ้าหากคุณใช้ฟรี Email คุณจะไม่มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ และช่วยเหลือ เมื่อเกิดปัญหาในการใช้อีเมลเพื่อติดต่อธุรกิจ
5. Email ธุรกิจ ไม่มีโฆษณาคอยกวนใจ
ฟรี Email มักจะมีโฆษณามากมาย ซึ่งอาจทำให้ธุรกิจรู้สึกไม่ปลอดภัยโดยอาจถูกแทรกแซงจากบุคคลที่สามได้ ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเมื่อคุณใช้บริการ Email ธุรกิจ
6. Email ธุรกิจ มี admin คอยดูแลและตรวจสอบข้อมูลได้
หากคุณใช้ Email ธุรกิจ คุณจะมีระบบควบคุมข้อมูลของบริษัท มี admin คอยดูแล สามารถ monitor การรับ-ส่งอีเมลของพนักงานได้ ว่าส่งข้อมูลอะไรของบริษัทออกไปภายนอกบ้าง หากเกิดปัญหาก็จะสามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดาย
7. ฟรี Email เสี่ยงที่อีเมลของคุณที่ถูกส่งไปให้ลูกค้า อาจถูกระบบโยนให้เป็นสแปม
ตัวกรองสแปมส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะตรวจจับชื่อบัญชีที่มาจากฟรีอีเมลอย่าง Gmail, Yahoo หรือ Hotmail นั่นก็เป็นเพราะว่าโดยทั่วไปแล้วนักส่งสแปมจะใช้ชื่อบัญชีที่เป็นฟรีอีเมลนั่นเอง ซึ่งเป็นวีธีที่ง่ายและไม่เสียเงินสักบาทเดียว ดังนั้นข้อมูลสำคัญที่ทางบริษัทส่งให้ลูกค้า หรือเพื่อนร่วมงาน ก็มีโอกาสกลายเป็นสแปมไปโดยปริยายได้เหมือนกัน แต่ถ้าคุณใช้ Email ธุรกิจ จะไม่มีปัญหาเหล่านี้เลย
8. ฟรี Email เสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลได้ง่าย
เหล่าแฮ็คเกอร์นั้นชื่นชอบฟรี Email อย่างมาก ยิ่งเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่อย่าง Gmail, Hotmail, Yahoo ก็ยิ่งถูกเพ่งเล็งได้ง่ายขึ้น ซึ่งจากข้อมูลสถิติเมื่อปี 2015 มีจำนวนบัญชีที่ถูกโจรกรรมทางข้อมูลสูงถึง 272.3 ล้านชื่อผู้ใช้ โดยการแฮ็คครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2015 แล้ว ซึ่งข้อมูลที่หลุดออกไปประกอบด้วยชื่อ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ วันเกิด ค่าแฮชของรหัสผ่าน และข้อมูลที่สำคัญอื่นๆของผู้ใช้งาน แต่ถ้าคุณใช้บริการ Email ธุรกิจ คุณสามารถวางใจได้เลยว่าข้อมูลของคุณจะมีระบบป้องกันและมีผู้ดูแลข้อมูลให้กับคุณ
9.ใช้ฟรี Email ติดต่อธุรกิจ ดูไม่เป็นมืออาชีพ
หากคุณติดต่อธุรกิจกับลูกค้าโดยใช้ฟรี Email ลูกค้าอาจมองว่าบริษัทของคุณ
- มีงบไม่พอในการสร้าง Email ธุรกิจ หรือสร้างเว็บไซต์ที่มีความเป็นมืออาชีพได้
- การส่งอีเมลแต่ละครั้ง ดูเหมือนมาจากอีเมลส่วนตัวมากกว่าอีเมลติดต่อธุรกิจ
- บริษัทของคุณมีการจัดการ หรือมีความเป็นมืออาชีพไม่เพียงพอในการจดชื่อโดเมนบริษัท
- บริษัทของคุณไม่สนใจเรื่องความปลอดภัย
แต่ถ้าคุณใช้ Email ธุรกิจ ติดต่อธุรกิจกับลูกค้า นอกจากภาพลักษณ์ที่ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าของคุณอีกด้วย
