Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “Learning Guide” ใน NotebookLM ยกระดับการวิเคราะห์ข้อมูลให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “Learning Guide” ใน NotebookLM ยกระดับการวิเคราะห์ข้อมูลให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น


Google ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาเครื่องมือเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานวิเคราะห์และทำความเข้าใจข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น ล่าสุดได้เริ่มทยอยเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่มีชื่อว่า "Learning Guide" ให้กับผู้ใช้ Workspace ทุกรายที่เข้าถึงแอปพลิเคชัน NotebookLM แล้ว

NotebookLM คืออะไร? สำหรับผู้ที่อาจจะยังไม่คุ้นเคย นี่คือแอปพลิเคชันสำหรับงานวิจัยและการจดบันทึกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Gemini ของ Google ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณสามารถสังเคราะห์และทำความเข้าใจเอกสารของคุณเอง (ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ PDF, Google Slides, หรือ Docs) ได้อย่างง่ายดาย

เครื่องมือนี้อยู่คู่กับผู้ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2023 โดยเริ่มต้นจาก "Project Tailwind" ก่อนจะมาเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในเดือนกันยายนปีที่แล้ว จากการเปิดตัวฟีเจอร์ "Audio Overviews" ที่สามารถสร้างสรุปเนื้อหาจากแหล่งข้อมูลของคุณในรูปแบบบทสนทนาคล้ายพอดแคสต์

“Learning Guide” ฟีเจอร์ที่พาคุณไปไกลกว่าแค่การสรุป

สำหรับฟีเจอร์ "Learning Guide" ใหม่นี้ สร้างขึ้นบนพื้นฐานเดิมของ NotebookLM แต่มีจุดมุ่งหมายสำคัญคือ กระตุ้นให้ผู้ใช้งานคิดวิเคราะห์เนื้อหาอย่างมีวิจารณญาณมากขึ้น แทนที่จะเพียงแค่รับการสรุปสั้น ๆ หรือคำตอบแบบตรงไปตรงมาเท่านั้น

แนวคิดของฟีเจอร์นี้อาจจะทำให้คุณนึกถึง “Study Mode” ของ ChatGPT ที่ OpenAI เปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพราะเครื่องมือทั้งสองนี้ทำงานคล้ายกับ "ครูสอนแบบโสเครติส" (Socratic tutor) นั่นคือ ใช้คำถามนำเพื่อผลักดันให้คุณค้นพบและทำความเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง แทนที่จะแค่บริโภคข้อมูลที่ได้มา

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างที่ชัดเจนคือ "Learning Guide" ของ Google จะเน้นไปที่เนื้อหาของเอกสารที่คุณอัปโหลดเข้าไปโดยเฉพาะ (hyper-focused) ในขณะที่ Study Mode อาจจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยการเรียนรู้ที่ครอบคลุมสำหรับวิชาการในวงกว้างมากกว่า

สำหรับผู้ดูแลระบบ Workspace: วิธีการเปิดใช้งาน

Google ระบุว่าความสามารถในการใช้งานฟีเจอร์ Learning Guide จะขึ้นอยู่กับการตั้งค่าในคอนโซลผู้ดูแลระบบ (Admin Console) ขององค์กรคุณ

สำหรับผู้ดูแลระบบ Workspace (Workspace admin): คุณสามารถจัดการการเข้าถึง NotebookLM ผ่าน Google Admin Console โดยจะต้องมีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ “Gemini Settings” ในการเปลี่ยนแปลงค่าต่าง ๆ

  1. หลังจากลงชื่อเข้าใช้ ให้ไปที่เมนูหลัก (main menu)
  2. ไปที่ Generative AI
  3. เลือก NotebookLM
  4. จากนั้นคุณจะพบตัวเลือก "Service status"

คุณสามารถเลือก "On for everyone" เพื่อเปิดใช้งานสำหรับทุกคนในองค์กร หรือ "Off for everyone" เพื่อปิดใช้งาน หากต้องการควบคุมแบบเฉพาะเจาะจง คุณสามารถเลือกหน่วยขององค์กร (organizational unit) เช่น แผนกต่าง ๆ เพื่อเปิดหรือปิดสถานะได้

หากคุณเปลี่ยนการตั้งค่าสำหรับหน่วยขององค์กรที่รับค่ามาจากกลุ่มหลัก (parent group) คุณจะต้องคลิก "Override" เพื่อให้การตั้งค่าใหม่มีผล นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้กลุ่มการเข้าถึง (access groups) เพื่อจัดการสิทธิ์สำหรับผู้ใช้ในแผนกต่าง ๆ ได้อีกด้วย

ที่สำคัญ! อย่าลืมคลิก "Save" (บันทึก) ทุกครั้งหลังจากทำการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เสร็จสิ้น

 

ที่มา workspaceupdates


10 ผลิตภัณฑ์และบริการของ Google ที่ถูกยกเลิกในปี 2024
เมื่อปี 2024 กำลังจะสิ้นสุดลงในไม่กี่วันข้างหน้า ถึงเวลาที่เราจะได้เห็นบทสรุปต่างๆ ของผลิตภัณฑ์และบริการจากหลายๆ เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น YouTube Musi...
Microsoft Word ปรับฟีเจอร์ใหม่สามารถกู้คืนงานเอกสารได้ทันที
ในปัจจุบันโลกของเราได้มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาการทำงานให้มีความหลากหลายมากขึ้นรวมถึงความสามารถในการทำงานร่วมกันบนเครือข่ายต่างๆ เพื่อนร่วมงานหรือบ...
อัปเดตแล้ว ฟังก์ชันใหม่ “เลือกทั้งหมด” ของ Gmail สำหรับ Android
บริการอีเมลได้ประกาศว่าจะเพิ่มฟังก์ชัน "เลือกทั้งหมด" ให้กับแอพฯ Gmail เวอร์ชัน Android ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกอีเมลในกล่องจดหมายหรือผลลัพธ...

Quote

Line

Call