Microsoft เปิดตัว Copilot บน Teams Rooms เวอร์ชัน Windows

Microsoft เปิดตัว Copilot บน Teams Rooms เวอร์ชัน Windows


Microsoft ได้ให้การสนับสนุนการใช้ Copilot บน Teams Rooms ช่วยให้ระบุตัวตนของผู้พูดในห้องประชุมระหว่างการประชุมวิดีโอหรือเสียง ฟีเจอร์นี้ทำงานร่วมกับระบบถอดเสียงการประชุมแบบสด ช่วยให้ทราบว่าใครกำลังพูดในเนื้อหาการถอดเสียง อย่างไรก็ตามในตอนนี้การใช้งาน Copilot บน Teams Rooms ยังต้องใช้ ไมโครโฟนพิเศษ เพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้

วันนี้ทาง Microsoft ได้ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ Copilot บน Teams Rooms บนอุปกรณ์ Windows ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าผู้ใช้หรือผู้เข้าร่วมการประชุมจะใช้ไมโครโฟนชนิดใด Copilot ก็สามารถระบุตัวตนของผู้พูดได้อย่างแม่นยำ

Microsoft เปิดตัว Copilot บน Teams Rooms เวอร์ชัน Windows

ในโพสต์บล็อก Microsoft ระบุว่า:

ระบบการจดจำเสียงพูดอัจฉริยะของ Microsoft จะวิเคราะห์ลักษณะเสียงที่แตกต่างกันของผู้พูดแต่ละคน เช่น ระดับเสียง โทนเสียง และรูปแบบการพูด เราคิดว่าระบบนี้เป็นลายเสียงของผู้พูดแต่ละคน ซึ่งคล้ายกับลายนิ้วมือของเสียงของพวกเขา

นอกจากนี้ เทคโนโลยีการจดจำเสียงของ Copilot ยังมีความสามารถในการปิดเสียงรบกวนสำหรับผู้พูดแต่ละคนอีกด้วย ซึ่งหมายความว่า เสียงรบกวนที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ที่ผู้พูดอยู่นั้นจะถูกตัดออกไป ทำให้เสียงของผู้พูดชัดเจนกว่าปกติ ผู้เข้าร่วมการประชุมจึงสามารถรับฟังเนื้อหาการประชุมได้อย่างชัดเจนและไม่มีเสียงรบกวน

ผู้ใช้สามารถตั้งค่าโปรไฟล์เสียงดิจิทัลของตนเองได้ การตั้งค่าโปรไฟล์เสียงนี้ช่วยให้ Teams Rooms สามารถระบุผู้พูดแต่ละคนในที่ประชุมได้อย่างแม่นยำ เมื่อผู้ใช้แต่ละคนมีโปรไฟล์เสียงที่เป็นเอกลักษณ์การประชุมก็จะมีความชัดเจนและเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น การระบุผู้พูดได้อย่างถูกต้องช่วยให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถติดตามและเข้าใจบทสนทนาได้ดียิ่งขึ้น ทำให้การบันทึกการประชุมมีความถูกต้องและครอบคลุมมากขึ้น โดยระบบสามารถสรุปการประชุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงระบุรายการการดำเนินการ (action items) สำหรับผู้เข้าร่วมประชุมแต่ละคนได้อย่างชัดเจน

Microsoft ยังได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลเสียงและใบหน้าที่ Copilot ใช้สำหรับ Teams Rooms โดยได้ระบุว่า:

ข้อมูลเสียงและใบหน้าของผู้ใช้จะถูกเข้ารหัสทั้งในขณะพักและระหว่างการส่ง และได้รับการปกป้องโดยนโยบายและแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของ Microsoft ข้อมูลเสียงและใบหน้าของผู้ใช้จะถูกจัดเก็บในภูมิภาคเดียวกับข้อมูล Microsoft Teams ของพวกเขา และการจัดเก็บนั้นสอดคล้องกับ GDPR ผู้ใช้สามารถยกเลิกการลงทะเบียนโปรไฟล์เสียงหรือใบหน้าได้ตลอดเวลา โปรไฟล์จะถูกลบโดยอัตโนมัติเมื่อบัญชี Teams ถูกลบหรือหากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลาหนึ่งปี

Microsoft ยังมีแผนที่จะขยายฟีเจอร์การจดจำเสียงไปยังแอปเดสก์ท็อป Teams สำหรับบริษัทต่างๆ ที่ให้พนักงานสามารถใช้อุปกรณ์ของตนเองได้ Teams Rooms บน Android จะใช้ฟีเจอร์นี้ในช่วงปี 2025

สรุป
Microsoft ยกระดับประสบการณ์การประชุมบน Microsoft Teams อีกขั้น ด้วยการขยายการใช้งานฟีเจอร์ Copilot speaker recognition ไปยัง Teams Rooms บนอุปกรณ์ Windows ทั้งหมด ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ระบุตัวตนของผู้พูดแต่ละคนในห้องประชุมระหว่างการประชุมวิดีโอหรือเสียง โดยไม่ต้องใช้ไมโครโฟนพิเศษ

 

ที่มา neowin


Microsoft อาจจะไม่ได้ใช้ชื่อ Windows11 ในการเปิดตัวการอัปเดทครั้งใหญ่
อย่างที่พวกเราทราบกันมาระยะหนึ่งแล้วว่าการอัปเดตฟีเจอร์ขนาดใหญ่ของ Windows 11 กำลังจะมา แต่จนถึงตอนนี้ทาง Microsoft ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวของชื่อ...
Explorer Tab Utility แก้ไขฟีเจอร์ขาดหายใน Windows 11 File Explorer ให้สมบูรณ์แบบ!!
Windows 11 มาพร้อมการปรับปรุง File Explorer มากมาย แต่ก็ยังมีบางฟีเจอร์ที่หายไป ทำให้ผู้ใช้หลายคนรู้สึกขาด ๆ หาย ๆ ไม่เต็มที่ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะมี...
Microsoft Teams ล่มกระทบผู้ใช้งานทั่วโลก
ตามรายงานของสื่อต่างประเทศ รวมถึงบัญชีทวิตเตอร์ @MSFT365Status ซึ่งเป็นบัญชีที่ทำหน้าที่รายงานความเคลื่อนไหวบริการต่างๆ ของMicrosoft เปิดเผยว่า พว...

Quote

Line

Call