Microsoft เตือนภัยไซเบอร์ครั้งใหญ่! หากยังใช้ Windows 10 ต่อไป

Microsoft เตือนภัยไซเบอร์ครั้งใหญ่! หากยังใช้ Windows 10 ต่อไป


Microsoft ออกคำเตือนอย่างเป็นทางการ ถึงผู้ใช้งานทั่วโลกว่า การยังคงใช้ Windows 10 ต่อหลังจากสิ้นสุดการสนับสนุน อาจนำไปสู่ “หายนะทางไซเบอร์” ได้ทุกเมื่อ

การสนับสนุน Windows 10 สิ้นสุดลงไปแล้วประมาณ 10 วันก่อน ซึ่งแม้ว่าผู้ใช้บางรายยังสามารถอยู่ต่อได้ผ่านโปรแกรม Extended Security Updates (ESU) หรือเลือกที่จะไม่ติดตั้งอัปเดตใด ๆ เลยก็ตาม แต่ Microsoft ย้ำชัดว่า นี่คือความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ไม่ควรมองข้าม

ล่าสุด Microsoft ได้เผยแพร่บทความในบล็อก Windows for Business เตือนว่าระบบที่ไม่ได้รับการสนับสนุนอย่าง Windows 10 จะกลายเป็น “ช่องโหว่เปิด” ให้แฮ็กเกอร์เข้ามาโจมตีได้ง่ายขึ้น เพราะช่องทางการอัปเดตและป้องกันภัยต่าง ๆ ถูกปิดลงโดยสิ้นเชิง

⚠️ Windows 10 = ระบบที่ไร้การป้องกัน

ในรายงานดังกล่าว Microsoft ระบุว่า “90% ของการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์” เกิดขึ้นบนอุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการจัดการหรืออัปเดตความปลอดภัยอย่างถูกต้อง และระบบที่ล้าสมัยอย่าง Windows 10 มักมีจุดอ่อนในหลายด้าน เช่น

  • ช่องว่างด้านความปลอดภัยของอุปกรณ์ (Endpoint Security Gaps)

  • ความเสี่ยงด้านการตรวจสอบและการปฏิบัติตามมาตรฐาน (Compliance & Audit Risks)

  • ช่องโหว่ในการควบคุมการเข้าถึงข้อมูล (Access Control Vulnerabilities)

  • ปัญหาการจัดการข้อมูลและนโยบายภายในองค์กร (Data Governance Breakdowns)

Microsoft ยังย้ำคำเตือนที่ชัดเจนว่า

“แฮ็กเกอร์ไม่จำเป็นต้องเจาะผ่านกลอนที่แข็งแรงที่สุดของคุณ — พวกเขาแค่รอจนกว่าคุณจะเปิดหน้าต่างทิ้งไว้เองเท่านั้น”

เมื่อ Windows 10 สิ้นสุดการสนับสนุนอย่างเป็นทางการ แฮ็กเกอร์จำนวนมากก็เริ่มมองเห็นช่องทางและรอจังหวะที่องค์กรต่าง ๆ จะ “ตกขบวน” อัปเกรด ยิ่งองค์กรชะลอการเปลี่ยน ระบบที่ไม่ได้รับการอัปเดตก็จะยิ่งกลายเป็นเป้าหมายที่ง่ายขึ้นเรื่อย ๆ

ความเสียหายที่ตามมา “แพงกว่าที่คิด”

Microsoft เตือนเพิ่มเติมว่า การละเลยอัปเกรดระบบอาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขและฟื้นฟูระบบที่สูงขึ้น การหยุดชะงักของธุรกิจที่ยาวนานกว่าเดิม และความเสียหายต่อชื่อเสียงขององค์กร นอกจากนี้ยังอาจทำให้ไม่สามารถผ่านมาตรฐานความปลอดภัยที่จำเป็นต่อสัญญาและความเชื่อมั่นจากลูกค้าได้อีกด้วย

ทางออกจากความเสี่ยง

Microsoft แนะนำให้องค์กรเร่งดำเนินการดังนี้

  1. ตรวจสอบสภาพแวดล้อมของระบบ (Audit Environment)

  2. ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงสูง

  3. เสริมการป้องกันชั่วคราวในระบบเก่า

  4. วางแผนการย้ายไปใช้ระบบที่ทันสมัยกว่าโดยเร็วที่สุด

ในตอนท้าย Microsoft ยังได้โปรโมตข้อดีของ Windows 11 ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยยุคใหม่ เช่น

  • Intel vPro Hardware Security

  • Windows Hello for Business

  • Secure Future Initiative (SFI)

  • Copilot+ PC ที่สามารถประมวลผล AI ได้ในเครื่องโดยตรง

 

ที่มา neowin


Microsoft ปล่อย Windows 11 26H1 Build 28020.1362 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่จำนวนมาก!
Microsoft เริ่มทยอยปล่อย Windows 11 Canary Build 28020.1362 สำหรับกลุ่ม Windows Insider ซึ่งถือเป็นอัปเดตขนาดใหญ่ของ Windows 11 เวอร์ชัน 26H1 ที่มาพ...
อัปเดตใหม่ Microsoft Teams รองรับบัญชีองค์กรและบัญชีส่วนตัวในแอปเดียว
Microsoftได้อัปเดต Microsoft Teams เวอร์ชันใหม่ที่สามารถสลับการใช้งานระหว่างบัญชีองค์กรและบัญชีส่วนตัวในแอปเดียวได้อย่างง่ายดาย โดยการอัปเดตนี้ได้เร...

Quote

Line

Call