Microsoft เผยเหตุผลชัดเจน ทำไมผู้ใช้ Windows 10 ต้องอัปเกรดเป็น Windows 11 ก่อนสิ้นสุดซัพพอร์ต

Microsoft เผยเหตุผลชัดเจน ทำไมผู้ใช้ Windows 10 ต้องอัปเกรดเป็น Windows 11 ก่อนสิ้นสุดซัพพอร์ต


Microsoft ออกมาแนะนำผู้ใช้ Windows 10 ให้เตรียมอัปเกรดเป็น Windows 11 โดยระบุว่า Windows 10 จะสิ้นสุดการสนับสนุนในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 หรืออีกเพียงไม่กี่เดือนข้างหน้า และถึงแม้ว่าหลายคนยังลังเลเพราะปัจจัยอย่างฮาร์ดแวร์ที่ไม่รองรับ หรือไม่ชอบอินเทอร์เฟซใหม่ แต่ Microsoft ได้ชี้ให้เห็นเหตุผลสำคัญว่าทำไม Windows 11 จึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเดิมในหลายด้าน

จุดเด่นสำคัญของ Windows 11 ที่ Microsoft ยกมา ได้แก่:

  • ความปลอดภัยที่เหนือกว่า
    Windows 11 ได้ยกระดับความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการบังคับใช้ชิป TPM 2.0, การใช้ Smart App Control และ Virtualization-Based Security (VBS) ช่วยลดความเสี่ยงด้านไซเบอร์ได้อย่างชัดเจน โดย Microsoft อ้างอิงว่ามีการรายงานเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยลดลงถึง 62% และการโจมตีเฟิร์มแวร์ลดลงถึง 3 เท่า

  • ความเร็วในการอัปเดตที่เพิ่มขึ้น
    ใครที่เคยเบื่อกับการอัปเดต Windows ที่ใช้เวลานาน จะต้องชอบ Windows 11 เพราะระบบอัปเดตถูกออกแบบใหม่ให้ เร็วกว่า Windows 10 ถึง 2.3 เท่า ทำให้การติดตั้งใช้เวลาน้อยลงและไม่รบกวนการทำงาน

  • ประสบการณ์ใช้งานที่ทันสมัย
    Windows 11 มาพร้อมฟีเจอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น Snap Layouts, การจัดการเดสก์ท็อปเสมือนที่ดีขึ้น, อินเทอร์เฟซที่สะอาดตา และการปรับปรุง Taskbar กับ Start Menu แม้จะมีเสียงวิจารณ์ในบางจุด แต่ก็มีการอัปเดตต่อเนื่องให้ใช้งานสะดวกขึ้น

  • ฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้พิการแบบใหม่
    Microsoft เน้นย้ำว่า Windows 11 ได้รับการออกแบบให้รองรับการเข้าถึงมากยิ่งขึ้น เช่น Voice Access, Focus Sessions, Live Captions, Voice Typing ฯลฯ ทำให้ผู้ใช้งานที่ต้องพึ่งเทคโนโลยีช่วยเหลือสามารถใช้งานระบบได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

  • ฟีเจอร์ AI สุดล้ำ (เฉพาะบางอุปกรณ์)
    Windows 11 มีฟีเจอร์ที่ใช้พลังของ AI เช่น Recall, Click to Do, AI Search, Paint Cocreator, และ Copilot Vision ซึ่งบางฟีเจอร์สามารถใช้งานได้กับพีซีทุกเครื่อง ในขณะที่บางอย่างต้องใช้อุปกรณ์รุ่นใหม่ที่รองรับ

แม้ว่าการอัปเกรดจะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ Microsoft ก็ไม่ทิ้งผู้ใช้ Windows 10 โดยได้ประกาศว่า โปรแกรม Extended Security Update (ESU) จะเปิดให้ใช้งาน ฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ซึ่งปกติแล้วจะสงวนไว้ให้ลูกค้าองค์กรเท่านั้น เพียงแค่สำรองข้อมูลด้วยแอป Windows Backup ผ่านบัญชี Microsoft

ผู้ใช้ควรเริ่มวางแผนว่าจะอัปเกรดหรือไม่ก่อนถึงกำหนดสิ้นสุดการสนับสนุน เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลและประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ใหม่ ๆ หรือใช้งานในองค์กรที่ต้องการความเสถียรและความมั่นคงด้าน IT

สรุป
Windows 11 ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนหน้าตา แต่เป็นการยกระดับทั้งความปลอดภัย ความเร็ว และความสามารถด้าน AI อย่างแท้จริง หากผู้ใช้บางท่านกำลังลังเล บทความนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณพิจารณาว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะก้าวสู่อนาคตของ Windows

 

ที่มา neowin


Microsoft ชี้ชัด! ทำไม TPM ทำให้ Windows 11 ปลอดภัยและดีกว่า Windows 10
ในขณะที่ Windows 10 กำลังจะสิ้นสุดการสนับสนุนในเร็ว ๆ นี้ Microsoft ได้ออกมาเน้นย้ำถึงเหตุผลสำคัญว่าทำไมผู้ใช้งานควรอัปเกรดไปใช้ Windows 11 โดยหนึ่ง...
Microsoft เปิดตัวเครื่องมือ Pytho ใหม่สำหรับแปลงไฟล์เอกสารเป็น Markdown
Microsoft สร้างความฮือฮาในวงการพัฒนาเทคโนโลยีด้วยการเปิดตัว MarkItDown ไลบรารี Python แบบโอเพ่นซอร์สที่ช่วยแปลงไฟล์เอกสารหลากหลายประเภทให้เป็น Markd...
Microsoft ปล่อยอัปเดต Windows 11 KB5060826 ปรับปรุงการตั้งค่าเบราว์เซอร์และฟีเจอร์ย้ายข้อมูลพีซี
Microsoft ได้ปล่อยอัปเดตพรีวิวแบบไม่ใช่ด้านความปลอดภัย (C-Release) สำหรับผู้ใช้ Windows 11 เวอร์ชัน 23H2 และ 22H2 ภายใต้หมายเลขอัปเดต KB5060826 ซึ่ง...

Quote

Line

Call