Microsoft เดินหน้าพัฒนา Windows 11 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดเผยฟีเจอร์ใหม่ 10 รายการที่เริ่มทยอยปล่อยให้ทดลองใช้งานผ่านเวอร์ชันพรีวิว พร้อมเตรียมปล่อยอัปเดตใหญ่ในเวอร์ชัน 25H2 ภายในครึ่งปีหลังของ 2025
ตลอดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา Microsoft ได้ออกอัปเดตรายเดือนที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่มากมาย แม้การอัปเดตใหญ่จะยังไม่มาถึง แต่ผู้ใช้งานสามารถทดลองใช้ฟีเจอร์ล้ำสมัยเหล่านี้ได้แล้วในเวอร์ชัน Windows 11 Preview Build ซึ่งในจำนวนนี้ บางฟีเจอร์จะถูกนำไปใช้งานจริง ขณะที่บางฟีเจอร์อาจถูกปรับหรือเลื่อนการเปิดตัวออกไป
สรุป 10 ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าจับตาใน Windows 11
1. Start Menu โฉมใหม่
Microsoft ปรับดีไซน์เมนู Start ใหม่ทั้งหมด เพิ่มขนาด ปรับเลย์เอาต์ได้หลากหลาย และสามารถปิดส่วนแนะนำ (Recommended) ได้ ช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานราบรื่นและยืดหยุ่นมากขึ้น
2. ระบบประหยัดพลังงานอัตโนมัติ (Adaptive Power Saver)
ฟีเจอร์นี้จะเปิดหรือปิดโหมดประหยัดพลังงานตามลักษณะการใช้งาน ไม่ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่ พร้อมรองรับบนโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต และอุปกรณ์พกพาอื่น ๆ
3. เลือกตำแหน่งแสดงผลของแถบสถานะ (Flyout)
ผู้ใช้งานสามารถเลือกให้แถบปรับเสียงหรือความสว่างปรากฏในตำแหน่งต่าง ๆ บนหน้าจอ เช่น มุมบนซ้ายหรือกลางจอได้แล้ว เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น
4. Agentic Search ในแอป Settings
ใช้ได้เฉพาะบน Copilot+ PCs ฟีเจอร์นี้ให้ผู้ใช้พิมพ์ปัญหาด้วยภาษาธรรมชาติ เช่น "เคอร์เซอร์เล็กเกินไป" ระบบจะเข้าใจและแนะนำการตั้งค่าหรือดำเนินการให้อัตโนมัติ
5. นาฬิกาในศูนย์แจ้งเตือนกลับมาอีกครั้ง
ตามเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้ Microsoft ได้นำนาฬิกาขนาดใหญ่กลับมาบนศูนย์แจ้งเตือนและปฏิทินอีกครั้ง และยังสามารถปิดการแสดงผลได้หากไม่ต้องการใช้งาน
6. ปรับแต่งวิดเจ็ตบนหน้าล็อกสกรีน
สามารถเลือกแสดงเฉพาะวิดเจ็ตที่ต้องการ เช่น สภาพอากาศหรือสภาพจราจร พร้อมปิดการแสดงผลวิดเจ็ตอื่น ๆ ได้ใน Settings > Personalization > Lock Screen
7. Quick Machine Recovery
หากระบบไม่สามารถบูตได้ ฟีเจอร์นี้จะพยายามเชื่อมต่อ Windows Update จากโหมดกู้คืน เพื่อดาวน์โหลดการแก้ไขหรือบรรเทาปัญหาโดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ทั้งหมด
8. Windows Advanced Settings แทนที่ For Developers
แท็บ “For Developers” จะถูกแทนที่ด้วย “Advanced Settings” ซึ่งรวมฟีเจอร์จากแอป Dev Home เดิม เช่น การตั้งค่า Virtual Workspaces การเปิดใช้งานเส้นทางยาว และการผสานรหัสใน File Explorer
9. เปลี่ยนจาก Blue Screen เป็น Black Screen of Death
Microsoft ปรับหน้าจอแจ้งข้อผิดพลาดแบบใหม่เป็นสีดำ ไม่มีหน้ายิ้ม ไม่มี QR Code เพื่อให้เน้นไปที่การวิเคราะห์ปัญหาจริงมากขึ้น
10. รองรับ Passkey ในแอปจัดการรหัสผ่านของบุคคลที่สาม
Windows Security จะสามารถเข้าถึงและจัดเก็บ Passkey จากแอปเช่น 1Password ได้แล้ว พร้อมสนับสนุนการใช้งาน Passkey บนเว็บไซต์ต่าง ๆ อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
แม้ฟีเจอร์เหล่านี้ยังอยู่ในช่วงทดลองใช้ผ่านเวอร์ชันพรีวิว แต่หลายรายการมีแนวโน้มสูงที่จะเข้าสู่เวอร์ชันเสถียรในอัปเดตใหญ่ช่วงปลายปี ซึ่ง Microsoft เรียกว่าเวอร์ชัน 25H2
นอกจากนี้ Microsoft ยังมีแผนเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่างต่อเนื่องผ่านอัปเดตรายเดือนในอนาคต ผู้ใช้งานสามารถคาดหวังประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหลและชาญฉลาดยิ่งขึ้นจากระบบปฏิบัติการ Windows 11
สรุป
Microsoft เตรียมปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 เวอร์ชัน 25H2 ในช่วงครึ่งปีหลัง 2025 โดยมีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจจำนวนมาก ซึ่งบางส่วนเริ่มให้ทดลองใช้แล้วในเวอร์ชัน Preview Build Microsoft ยืนยันว่าจะมีฟีเจอร์ใหม่ทยอยเพิ่มอีกในอัปเดตรายเดือนตลอดปีนี้ ผู้ใช้งานสามารถเริ่มทดสอบฟีเจอร์ล่วงหน้าได้ผ่านเวอร์ชันพรีวิวแล้ววันนี้
ที่มา neowin
