Hey Copilot ฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียงบน Windows กำลังเดินซ้ำรอย Cortana?

Hey Copilot ฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียงบน Windows กำลังเดินซ้ำรอย Cortana?


Microsoft ได้ปลุกความทรงจำเก่าๆ ของผู้ใช้ Windows ขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียง "Hey Copilot" ซึ่งทำให้หลายคนนึกย้อนไปถึง "Hey Cortana" ผู้ช่วยดิจิทัลที่เคยล้มเหลวไม่เป็นท่าในอดีต คำถามสำคัญคือ Microsoft กำลังจะก้าวพลาดซ้ำรอยเดิมอีกครั้งหรือไม่?

สำหรับใครที่เคยใช้ Windows 10 คงจะจำ Cortana ได้ดี มันคือผู้ช่วยดิจิทัลที่ Microsoft พยายามผลักดันอย่างหนักในช่วงแรก โดยได้แรงบันดาลใจจากความสำเร็จของ Siri บน iPhone แต่สุดท้ายกลับไม่ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานทั่วไป จนต้องยุติการให้บริการไปในปี 2023 การมาของ Copilot จึงเปรียบเสมือนความพยายามครั้งที่สองของ Microsoft ในสมรภูมินี้

ปัญหาเดิมที่ยังไม่ได้แก้

ปัญหาหลักของฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียงบน PC คือ พฤติกรรมของผู้ใช้งานส่วนใหญ่ไม่ได้คุยกับคอมพิวเตอร์ของตัวเอง การสั่งงานด้วยเสียงอาจสมเหตุสมผลบนสมาร์ทโฟนที่เราใช้งานระหว่างเดินทาง แต่สำหรับ PC หรือแล็ปท็อปที่คนส่วนใหญ่นั่งทำงานอยู่ตรงหน้า การใช้มือพิมพ์หรือคลิกเมาส์ยังคงเป็นวิธีที่รวดเร็วและสะดวกกว่า

นอกจากนี้ ในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบออฟฟิศ การพูดคุยกับคอมพิวเตอร์อาจเป็นการรบกวนสมาธิของเพื่อนร่วมงาน และยังเสี่ยงต่อการเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่อาจเป็นความลับโดยไม่ตั้งใจอีกด้วย

ปัญหาใหญ่ที่ถูกมองข้าม

อีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่เคยทำให้ Cortana ล้มเหลวและดูเหมือนจะเกิดขึ้นอีกครั้งกับ Copilot คือการที่ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาโดยเน้นผู้ใช้งานที่พูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก Microsoft มักจะให้ความสำคัญกับฐานลูกค้าในสหรัฐฯ เป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังสำหรับระบบปฏิบัติการที่มีผู้ใช้งานหลายร้อยล้านคนทั่วโลก

โมเดล AI ที่ฝึกฝนด้วยภาษาอังกฤษมักจะทำงานได้ไม่ดีนักเมื่อต้องเจอกับสำเนียงที่แตกต่างกันของผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ซึ่งอาจนำไปสู่การตีความคำสั่งที่ผิดพลาดและทำให้เสียเวลามากกว่าเดิม ลองนึกภาพว่าคุณสั่งให้ Copilot "วิเคราะห์และสรุปข้อมูลใน PowerPoint" แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับกลายเป็นอย่างอื่นไปโดยสิ้นเชิง

Hey Copilot ฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียงบน Windows กำลังเดินซ้ำรอย Cortana?

ความหวังของ Microsoft กับความเป็นจริง

แม้ว่า Microsoft จะพยายามโปรโมตฟีเจอร์นี้อย่างหนักราวกับว่าเป็นนวัตกรรมครั้งใหญ่ แต่จากบทเรียนในอดีตก็ชี้ชัดว่าความต้องการฟีเจอร์ลักษณะนี้ในหมู่ผู้ใช้งาน PC นั้นมีไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม ข้อดีอย่างหนึ่งคือฟีเจอร์นี้ไม่ได้ถูกบังคับให้ใช้งาน แต่ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะเปิดหรือปิดเองได้ (Opt-in)

สุดท้ายแล้ว Copilot จะมีชะตากรรมเดียวกับ Cortana ที่ถูกลืมเลือนไปในที่สุดหรือไม่นั้น คงมีแต่เวลาเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้

 

ที่มา neowin


Microsoft ยืนยันแล้วการลง Windows11 ต้องใช้ SSD เท่านั้น
ปัจจุบันมีการใช้ SSD ในแลปท็อปหรือโน๊ตบุ้คกันอย่างแพร่หลายและเป็นที่นิยมมากขึ้นแต่ HDD หรือ ฮาร์ดดิสก์ก็ยังมีการใช้งานอยู่เพราะเป็นตัวเลือกสำหรับใ...
DAX Express ใหม่ของ Microsoft จะรวม GPT-4 AI เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Microsoft ได้ประกาศฟีเจอร์ AI ใหม่Microsoft 365 Copilotซึ่งจะช่วยให้ผู้คนสร้างเอกสารประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้นในแอป Officeวั...

Quote

Line

Call