ข่าวดีสำหรับคนทำเอกสารและพรีเซนเทชัน! Microsoft ประกาศยกระดับฟีเจอร์ Accessibility ครั้งใหญ่ ด้วยการนำ Generative AI มาช่วยเขียน "Alt Text" ใน Word และ PowerPoint ให้แม่นยำและเข้าใจบริบทของภาพได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่ทำงานด้านเอกสาร การทำ Alt Text (ข้อความแสดงแทนรูปภาพ) ถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างเนื้อหาที่เข้าถึงได้ (Accessibility) เพราะช่วยให้ผู้พิการทางสายตาหรือผู้มีสายตาเลือนรางเข้าใจรูปภาพผ่านโปรแกรมอ่านหน้าจอ (Screen Reader)
ในอดีต Microsoft ใช้ระบบอัตโนมัติจาก Azure Vision ซึ่งแม้จะสะดวก แต่ข้อความที่ได้มักจะกว้างเกินไปและขาดรายละเอียดเจาะลึก แต่การอัปเกรดครั้งนี้ Microsoft เปลี่ยนมาใช้ Generative AI โมเดลภาษาอัจฉริยะที่จะเข้ามาเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานไปอย่างสิ้นเชิง
Microsoft ได้ปรับเปลี่ยนแนวคิดจากการ "สร้างให้อัตโนมัติทุกรูป" มาเป็น "สร้างเมื่อคุณต้องการ" (On-demand) โดยมีจุดเด่นสำคัญ 3 ประการ:
-
ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูงกว่าและมีบริบทที่หลากหลาย: AI ไม่ได้แค่บอกว่าภาพคืออะไร แต่สามารถอธิบายบริบทและรายละเอียดที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น (Rich & Contextual)
-
ควบคุมได้มากขึ้นว่าจะเพิ่มข้อความอื่นเมื่อใดและอย่างไร: ระบบจะไม่รันเองพร่ำเพรื่อ คุณสามารถเลือกกดสร้าง Alt Text ได้เฉพาะรูปที่ต้องการ
-
คำอธิบายที่ตั้งใจและแม่นยำซึ่งตรงกับเนื้อหาและกลุ่มเป้าหมายของคุณมากขึ้น: มีการเพิ่มมาตรการตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าคำอธิบายที่ AI เขียนออกมานั้นสุภาพ ตรงกับภาพจริง และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน
วิธีใช้งานง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน
ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้บน Word และ PowerPoint สำหรับ Windows:
-
แทรกรูปภาพลงในเอกสาร Word หรือ PowerPoint สำหรับ Windows
-
คลิกที่รูปภาพ เลือกเมนู Picture Format (รูปแบบรูปภาพ) > Alt Text (ข้อความแสดงแทน)
-
กดปุ่ม "Generate alt text for me" (สร้างข้อความแสดงแทนให้ฉัน) แล้วรอรับคำบรรยายภาพสุดล้ำได้ทันที
ใครใช้งานได้บ้าง?
-
ผู้ใช้ Microsoft 365: เริ่มใช้งานได้แล้วสำหรับผู้ที่อัปเดตเป็น Version 2510 (Build 19328.20000) หรือใหม่กว่า บนระบบปฏิบัติการ Windows
-
ผู้ใช้แบบซื้อขาด (Perpetual License): ในเวอร์ชันเก่า ระบบสร้างอัตโนมัติแบบเดิมจะถูกปิดเป็นค่าเริ่มต้น (แต่เปิดเองได้ในตั้งค่า) อย่างไรก็ตาม Microsoft ยืนยันว่าในเวอร์ชันซื้อขาดรุ่นถัดไป จะมีการใส่ฟีเจอร์ Gen AI ตัวใหม่นี้เข้ามาให้ใช้งานเช่นกัน เพื่อมาตรฐานที่เท่าเทียมกันทุกแพลตฟอร์ม
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระของคนทำคอนเทนต์ แต่ยังเป็นการเปิดกว้างให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ที่มา techcommunity
